ผมจั่วชื่อหัวข้อบทความมาแบบนี้ ผมคิดว่าหลายท่านน่าจะสามารถเดาคำตอบได้ไม่ยากว่า ผมคงจะมองว่ายังไว้ใจต่อเงินเฟ้อสหรัฐ ณ ตรงนี้ ยังไม่ได้ ซึ่งท่านคาดได้ถูกต้องแล้วครับ ว่าผมมองว่าคาดการณ์ของ Fed Fund Futures ที่ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยแล้วนั้น ได้ไปไกลกว่าสิ่งที่เป็นจริงในโลกแห่งเงินเฟ้อสหรัฐไปแล้ว แต่ที่สนใจมากกว่า คือ เหตุผลหรือปัจจัยใดที่ทำไมให้มองเป็นเช่นนั้น
โดยก่อนอื่นมาย้อนรอยตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือนตุลาคมที่ออกมาเมื่อกลางสัปดาห์กันก่อน ปรากฎว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐแบบไม่รวมอาหารสดและพลังงาน หรือ Core Inflation สูงขึ้น 0.2% เทียบกับเดือนก่อน และ 4% เทียบกับปีก่อน โดยถือว่าดีกว่าคาดการณ์และอัตราเงินเฟ้อของเดือนกันยายนอยู่เล็กน้อยที่ 0.3% เทียบกับเดือนก่อน และ 4.1% เทียบกับปีก่อน
พร้อมกับอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐ สูงขึ้น 3.2% ซึ่งถือว่าลดลงค่อนข้างแรงจากเดือนก่อน เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง โดยในความเห็นของผม มองว่าตลาดตีความการลดลงของเงินเฟ้อครั้งนี้แบบถือว่าดีใจเกินเบอร์ไปหน่อย (ซึ่งต้องยอมรับว่าแนวโน้มของเงินเฟ้อสหรัฐเดือนนี้ลดลงจริงๆ) ก็เพราะตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ 3.2% นี่เอง ซึ่งถือว่าเข้ามาใกล้ระดับเป้าหมายพอสมควรแล้ว หากพิจารณาดูอย่างกว้างๆ
ทีนี้ ลองมาพิจารณาองค์ประกอบไส้ในของเงินเฟ้อ CPI สหรัฐในเดือนตุลาคมกันบ้าง หากพิจารณารายการต่างๆ จะพบว่ามี 3 รายการที่อัตราเงินเฟ้อลดลงค่อนข้างมาก ได้แก่ ค่ายานพาหนะใหม่ ที่ลดลงจาก 2.5% ในเดือนก่อนมาเป็น 1.9%, ค่าที่พักอาศัย ที่ลดลงจาก 7.2% ในเดือนก่อนเหลือ 6.7% และค่าใช้จ่ายภาคบริการที่ไม่รวมการบริการด้านพลังงาน ลดลงจาก 5.7%ในเดือนก่อนเหลือ 5.5% ทั้งนี้ ค่าที่พักอาศัยของเงินเฟ้อ CPI เป็นการคำนวณจากสูตรการคำนวณด้านการเงินค่าเช่าที่พักอาศัยด้วยตัวแปรต่างๆซึ่งเกี่ยวกับที่พักอาศัย ซึ่งในส่วนค่าที่พักอาศัยนี้ ได้ส่งผลต่อการลดลงของเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือนตุลาคมประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ตรงนี้ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อแบบ PCE ในเดือนตุลาคม จะลดลงน้อยกว่า CPI
สาเหตุคือ วิธี CPI ให้น้ำหนักที่มากกว่าต่อสินค้าในหมวดที่อยู่อาศัย และน้ำมันสำเร็จรูป ในสัดส่วนที่มากกว่าวิธีการคิดเงินเฟ้อแบบ PCE นอกจากนี้ CPI ยังให้น้ำหนักที่มากกว่าต่อการประกันด้านที่อยู่อาศัยและประกันรถยนต์มากกว่าวิธี PCE เนื่องจาก PCE ใช้ในส่วนพรีเมี่ยมของประกัน ไม่ใช่คิดจากมูลค่าที่บริษัทประกันจ่ายเมื่อได้รับความเสียหายที่ใช้ในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อแบบ CPI นอกจากนี้ วิธี CPI ไม่ได้รวมประกันชีวิตในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนไม่ใช่เข้าข่ายหมวดบริการ
ที่สำคัญ วิธี CPI ให้น้ำหนักต่อหมวดรถมือสองและรถบรรทุกมากกว่าวิธี PCE เนื่องจากวิธี CPI ไม่ได้พิจารณาถึงราคาที่สูงขึ้นของรถมือสองที่ผู้บริโภคจะได้รับเงินเพิ่มเติมเมื่อขายให้กับดีลเลอร์
นอกจากนี้ หากพิจารณาดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐสำหรับเดือนตุลาคม ในรูปแบบต่างๆที่ได้รับความนิยม นับตั้งแต่ดัชนีอัตราเงินเฟ้อของเฟดสาขาคลีฟแลนด์ที่ตัดเอาเงินเฟ้อขององค์ประกอบที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดและน้อยที่สุดออกไป, ดัชนีอัตราเงินเฟ้อที่เน้นรายการซึ่งมีราคาที่ลดลงยากและใช้เวลานานในการขยับปรับเปลี่ยนของเฟดสาขาแอตแลนต้า, อัตราเงินเฟ้อแบบ Core ที่ตัดอาหารสดและพลังงานออกไป และอัตราเงินเฟ้อแบบ Supercore ที่เฟดชื่นชอบในช่วงหลัง ซึ่งคิดเฉพาะเงินเฟ้อจากภาคบริการที่ไม่นับรวมส่วนของที่พักอาศัย ปรากฎว่า
ทุกดัชนีได้ชี้ว่าแม้เงินเฟ้อ CPI สหรัฐไปในทิศทางที่ลดลงมาเรื่อยๆก็จริง แต่คงต้องยอมรับว่าความเร็วในการลดลงเริ่มช้าลงในช่วงหลัง และยังเกินระดับ 3% ซึ่งเป็นลิมิตบนของเป้าหมายเฟดอยู่ในตอนนี้ และที่สำคัญ อัตราเงินเฟ้อแบบ Supercore ลดลงน้อยกว่าดัชนีอื่นๆมากในเดือนล่าสุด โดยอัตราเงินเฟ้อ Supercore ในรอบ 3 เดือนล่าสุด ขึ้นไปถึง 4.9% ต่อปี ส่วนหนึ่งเนื่องจากค่าจ้างที่สูงขึ้นและในช่วงหลังลงยากขึ้นด้วย รวมถึงในช่วงหลังเงินเฟ้อแบบ Supercore มีการขยับขึ้นในบางจังหวะ เนื่องจากการเก็บค่าใช้จ่ายในการพักในโรงแรมของผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ
ด้วยปัจจัยทั้งหมด จึงทำให้เสียงเฮของตลาดเมื่อค่ำวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายนผ่านมา อาจจะต้องมีการชักมือของการแสดงความยินดีลงมาเล็กน้อย เนื่องจากสงครามกับเงินเฟ้อสหรัฐเหมือนจะไม่จบลงแบบเบ็ดเสร็จ 100% เสียทีเดียว แม้ว่ากำลังลดลงมาแบบที่ถือว่าทรงยังดีค่อนข้างมากอยู่ และมีโอกาสประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อยในการที่จะเอาชนะเงินเฟ้อสำหรับรอบนี้ไ้ด้ในที่สุด
ดร. บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ
